เหตุนี้นี่เอง...ทำไมเติมเงินมือถือไปแล้วแต่ใช้จริงได้แค่นิดเดียว

เหตุนี้นี่เอง...ทำไมเติมเงินมือถือไปแล้วแต่ใช้จริงได้แค่นิดเดียว

เหตุนี้นี่เอง...ทำไมเติมเงินมือถือไปแล้วแต่ใช้จริงได้แค่นิดเดียว

สมัคร สล็อตเว็บตรง GBM168 วันนี้ มีสิทธิ์ร่วมกิจกรรมแจกเครดิตฟรีมากมาย แค่เติมเงิน 50 บาทก็มีสิทธิ์ลุ้น 500 จากกงล้อฟรี!! เล่นง่าย ถอนได้จริง

ทุกวันนี้การใช้งานกับมือถือนอกจากจะเป็นเรื่องการใช้ Social Network แล้ว เรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเลยคือการจ่ายค่าบริการมือถือที่บางคนจ่ายแพง หรือ จ่ายถูกบ้างก็มีเช่นเดียวกัน แต่มีรูปแบบการใช้งานที่สะดวกไม่ต้องจ่ายทุกเดือนอย่างการเติมเงิน ซึ่งมีผู้ใหญ่ใกล้ตัวผู้เขียนก็มาถามว่า ทำไมเติมเงินไปแล้วไม่พอใช้ วันนี้เรามาหาคำตอบนี้ไปพร้อมกัน

istock-1187582529

เรื่องแรกที่แนะนำก่อนเลยเพราะมีบริการต่างๆ โทรและเผลอกด หรือรับข้อความมา หรือจะเป็นการเข้า Social Network จนเผลอสมัครแบบไม่ได้ตั้งใจก็มีเหมือนกัน

วิธีการยกเลิกบริการเหล่านี้สามารถโทรเข้าไปที่ *137 เพื่อยกเลิกได้เลยครับ

มี Package เสริมเช่นนาทีโทร หรือ อินเทอร์เน็ตแบบต่ออัตโนมัติ ที่ไม่ได้ยกเลิก

อีกบริการหนึ่งที่เพิ่มค่าใช้จ่ายโดยไม่ได้ตั้งใจตัวต่อไปคือ Package เสริมนั่นเอง แม้ว่า Pack เหล่านี้จะลดค่าใช้จ่ายถ้าใช้เยอะๆ ได้แต่ถ้าเกิดเราไม่ได้ใช้บ่อย อาจจะการเป็นภาระเสียเอง

วิธีการยกเลิก แนะนำให้ใช้วิธีดังนี้

  • ยกเลิกผ่าน Apps จากผู้ให้บริการ
  • โทรยกเลิกกับผู้ให้บริการผ่าน Call Center
  • ติดต่อที่ศูนย์ผู้ให้บริการ

แต่จากทดลองในกรณีดังกล่าวแล้ว Apps ของผู้ให้บริการก็มีช่องทางให้ยกเลิกได้รวดเร็วที่สุด

ให้ไปตัดเงินผ่าน Store ของ Apps เช่น Apps Store หรือ Google Play Store

ทุกวันนี้การซื้อ item เกม หรือ ซื้อ Apps ทำได้ง่ายผ่านเบอร์มือถือ แต่ความสะดวกเหล่านี้ถ้าซื้อเพลินก็อาจจะทำให้เกิดค่าบริการที่สูงได้ ดังนั้นควรดูว่า Apps หรือบริการที่ซื้อ ใช่การทำรายการของเราหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ควรรีบโทรไปบอกให้ผู้ให้บริการยกเลิกออก จะดีที่สุด ซึ่งกรณีเคยเป็นข่าวมาแล้วหลายครั้งที่บุตรหลานของคุณกดซื้อ item จนทะลุหลักหมื่นก็มีมาแล้ว

เผลอเปิดอินเทอร์เน็ตโดยไม่ได้สมัคร Package

และเรื่องสุดท้ายที่ทำให้เงินในมือถือหมดคือการเปิดอินเทอร์เน็ตนั่นเอง เพราะทุกครั้งที่มีการใช้งานก็จะมีการคิดเงิน ของค่าอินเทอร์เน็ตอาจจะสูงกว่าค่าโทรก็เป็นได้ดังนั้นวิธีการควบคุมค่าใช้จ่ายอาจจะต้องเลือก บริการเสริมอินเทอร์เน็ตหรือโทรให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ

แค่นี้เองครับก็สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างง่ายดายแล้วครับ ทั้งนี้บางครั้งถ้าใช้เยอะจริง แนะนำควรเปลี่ยนเป็นรายเดือนอาจจะถูกกว่าครับ

ครั้งหน้าทีม Sanook Hitech จะมีเรื่องราวอะไรมาบอกเล่ากันต่อสามารถติดตามต่อได้ที่นี่

ขอขอบคุณ:  

ก่อนอื่นต้องเข้าใจกันก่อนกับรูปแบบของรายเดือนและเติมเงินแตกต่างอย่างไร

รูปแบบการจ่ายรายเดือน ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า เป็นการใช้ไปก่อน และมาจ่ายเงินที่หลัง จุดเด่นของรูปแบบนี้คือ มีอินเทอร์เน็ต / ค่าโทร หรือบริการเสริมอยู่แล้ว ใช้การเหมาพวกนี้แล้วจ่ายไปนั่นเอง แต่ถ้าหมด ก็ซื้อ Pack บริการเสริม เมื่อครบรอบ 1 เดือนก็ต้องจ่ายตามนั้น

ส่วนแบบเติมเงินคือ ผู้ให้บริการจะไม่ได้มี Package อะไรให้ แต่ให้ผู้ใช้งานเลือกใช้เอง จะแบบเลือกตัดทุกเดือน หรือเป็นรายครั้งก็ได้เช่นเดียวกัน ผลดีคือสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้

แต่เรื่องที่เลือกซื้อ Package ที่เป็นก่อให้เกิดปัญหาที่ค่าใช้จ่ายที่เกินขึ้นจนเงินที่เติมไม่พอ โดยมากแล้วเกิดจาก

การสมัครบริการรับข่าวสาร / หรือความบันเทิงโดยไม่ได้ตั้งใจ

img_1052


















ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Meta เตรียมตัดสินใจจะให้ Trump กลับมาใช้เฟซบุ๊กหรือไม่ ปลายเดือน ม.ค. นี้

มาแล้ว! ฟีเจอร์ “Chat Lock” ของ WhatsApp ล็อกไม่ให้ใครเข้าไปยุ่งกับแชตของคุณ เริ่มใช้ได้วันนี้

เผยรายละเอียด "Xiaomi 13T" และ "13T Pro" รุ่นรองแต่สเปกอัดแน่น